นักโภชนาการเตือน ดื่มน้ำ 2 ชนิด เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง เฉลย “น้ำต้มซ้ำๆ” อันตรายจริงไหม

นักโภชนาการเตือน ดื่มน้ำ 2 ชนิด เพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง ทดสอบแล้ว น้ำต้มทิ้งข้ามคืน-น้ำต้มเดือดหลายครั้ง อันตรายจริงไหม

ฟ่าน จื้อหง (范志红) ศาสตราจารย์และนักโภชนาการที่มีชื่อเสียงของจีน ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำที่ ภาควิชาโภชนาการและความปลอดภัยด้านอาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งประเทศจีน (China Agricultural University, CAU) เปิดเผยว่า มีความเชื่อผิด ๆ ว่าน้ำที่ต้มแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนหรือน้ำที่นำมาต้มซ้ำหลายครั้งสามารถก่อมะเร็งได้ เนื่องจากอาจมีไนไตรต์ (Nitrite) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง

เปิดรูปภาพ

อย่างไรก็ตาม ไนไตรต์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อน้ำมีสารไนเตรต (Nitrate) อยู่ก่อนแล้ว แต่น้ำดื่มทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นน้ำแร่หรือน้ำบริสุทธิ์ มักมีเพียงแร่ธาตุและธาตุอาหารรอง หรืออาจไม่มีสารไนเตรตเลย จึงไม่มีปัจจัยให้เกิดไนไตรต์ที่เป็นอันตราย

นอกจากนี้ จากการทดสอบหลายครั้งพบว่า แม้น้ำจะถูกต้มซ้ำถึง 20 ครั้ง ก็มีไนไตรต์อยู่เพียง 0.038 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่ต่ำมากและไม่ได้เกิดจากการต้มซ้ำ แต่มาจากองค์ประกอบของน้ำตั้งแต่แรก ซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยการเลือกแหล่งน้ำที่เหมาะสม

เปิดรูปภาพ

ดังนั้น น้ำต้มสุกข้ามคืนและน้ำต้มซ้ำหลายครั้ง ไม่ใช่สาเหตุของโรคมะเร็ง ตามที่หลายคนกังวล

น้ำ 2 ประเภทที่อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง
น้ำร้อนเกินไป

หลายคนชอบดื่มน้ำร้อน เช่น น้ำชา หรือน้ำซุป โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักใช้กระติกน้ำร้อนเก็บน้ำเดือดไว้ดื่มตลอดทั้งวัน

องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า น้ำที่ร้อนเกิน 65°C อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งหลอดอาหารและมะเร็งกระเพาะอาหาร

เนื่องจากน้ำร้อนสามารถทำให้เยื่อบุหลอดอาหารและกระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองหรือบาดเจ็บ หากดื่มบ่อย ๆ อาจทำให้เซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสเกิดเซลล์มะเร็ง

เยื่อบุทางเดินอาหารรองรับอุณหภูมิได้ที่ประมาณ 40-50°C เท่านั้น

เปิดรูปภาพ

น้ำประปาที่ยังไม่ได้ต้ม

น้ำประปามักถูกฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ในน้ำ ก่อให้เกิดสารเคมีอย่าง คลอโรฟอร์ม (Chloroform) และไฮโดรฮาไลด์ (Hydro Halide) ซึ่งเป็นสารที่อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง
หากดื่มน้ำประปาโดยไม่ผ่านการกรองหรือต้มฆ่าเชื้อเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ และไต
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การได้รับคลอโรฟอร์มในปริมาณสูงเป็นเวลานานอาจทำให้ DNA ถูกทำลาย ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
คำแนะนำเพื่อการดื่มน้ำที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ

เปิดรูปภาพ

ปริมาณที่ควรดื่ม: ควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร หรือปรับตามน้ำหนักตัวและระดับกิจกรรม

อุณหภูมิที่เหมาะสม: ควรดื่มน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 20-40°C หลีกเลี่ยงน้ำที่ร้อนเกินไปหรือน้ำเย็นจัด

ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรดื่มน้ำเป็นระยะตลอดวัน โดยเฉพาะ แก้วหลังตื่นนอน เพื่อช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารเพื่อช่วยเรื่องการย่อยอาหาร

เปิดรูปภาพ

เปิดรูปภาพ

วิธีการดื่ม: ควรจิบน้ำทีละน้อย ไม่ควรดื่มรวดเดียวในปริมาณมาก เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น

แหล่งน้ำที่ปลอดภัย: ควรเลือก น้ำบริสุทธิ์หรือน้ำต้มสุกที่ปล่อยให้เย็นลง หลีกเลี่ยงน้ำประปาที่ยังไม่ได้ต้ม หรือน้ำที่ไม่ผ่านการกรอง

ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไป: ไม่ควรดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปในคราวเดียว เพราะอาจทำให้สมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ และในบางกรณีอาจเกิดภาวะ น้ำเป็นพิษ (Water Intoxication) ได้

หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน: เพื่อป้องกันการตื่นขึ้นมากลางดึกและรบกวนคุณภาพการนอน

การดื่มน้ำเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพ แต่ควรเลือกแหล่งน้ำที่ปลอดภัย ดื่มในอุณหภูมิที่เหมาะสม และไม่ดื่มมากเกินไปในคราวเดียว เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว

เปิดรูปภาพ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *